หนึ่งในปัญหายุคใหม่มาแรงของชาว Netizen หรือผู้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ทเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่งานประจำคือการนั่งขลุกอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เกือบจะตลอดเวลา ได้แก่ โรคใหม่ที่มีชื่อคูลสุดๆอย่าง Office Syndrome สำหรับใครที่กำลังเป็นอยู่ คงรู้ดีว่ามันทรมานทรกรรมขนาดไหน และไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไร ก็ดูมันจะไม่หายขาด พร้อมสิงเราเป็นเงาตามตัว หนึ่งในวิธีการที่มวลประชาชนทั้งหลายพอจะคิดออกแต่มีปัญหาในการทำคือ “ออกกำลังกาย” อาจจะด้วยรูปแบบการใช้ชีวิต สังคม และข้อจำกัดเรื่องงานในปัจจุบันที่ทำให้การออกกำลังกายกับมนุษย์ดูจะแปลกหน้ากันออกไปทุกทีๆ
อาการ Office Syndrome หลักๆนั้น ก็หนีไม่พ้นการปวดช่วงบ่า หลัง ไหล่ และอาจลามไปยังต้นแขน (ผู้เขียนเป็นหนักๆที่ต้นแขน ทรมานมาก พู่เลอ T__T) ซึ่งสาเหตุนั้นก็เกิดจากการนั่งอยู่อิริยาบทเดิมและใช้แต่บ่า แขน มือ ในการพิมพ์คอมพิวเตอร์ อย่างเบาะๆก็อาจแค่เมื่อย หนักๆหน่อยก็ปวดเรื้อรังจนไม่เป็นอันทำอะไร
นอกเหนือจากการพยายามออกกำลังกายแล้ว วิธีการแก้ไขที่ผู้เขียนทำอยู่เป็นเนืองนิตย์คือ “นวดแผนโบราณ” สลับกับการทานยาคลายกล้ามเนื้อ และใช้ยานวดบรรเทา สำหรับ Part การนวดนั้น ต้องบอกว่า วันนี้ดิฉันค้นพบเนื้อคู่แล้วค่ะ!! เค้าล่ำ เค้าดูหน่วยก้านล่ำสัน วิทยายุทธ์ในการใช้มือและแขนนั้นอาจนับได้เป็นหนึ่งในตองอูเท่าที่เคยนวดมา ใครสนใจและอยู่ละแวกลาดพร้าว บางกะปิ ส่งข้อความมาถามพิกัดได้นะคะ รับรองคนนี้เก่งจริง!!
ในส่วนของยานวดบรรเทานั้น ปกติดิฉันใช้ Perskindol ที่เป็นกระป๋องสเปรย์สีเหลืองๆ ราคาราวๆ 200++ (ซื้อที่ Boots 200 พอดีค่ะ ถ้าซื้อร้านยากรุงเทพ อาจต้องบวกค่าเปิด 24 ชั่วโมงไปอีกหลายสิบ) และใช้บ่อยมากจนถึงกับมีไว้ติดตัวในทุกแหล่งทำมาหากิน ที่บ้านเอย ในรถเอย และแน่นอนที่ทำงาน
เมื่อหลายวันก่อนเจ้าขวดที่ว่าหมด ซึ่งเป็นช่วงที่ประชุมอยู่แถวใจกลางเมืองและเกิดอาการกำเริบจึงทุรนทุรายเดินหาร้านขายยาเพื่อซื้อเจ้าขวดที่ว่า ครั้นพอกำลังจะจ่ายตังค์ อาเจ็กสุดหล่อเจ้าของร้านก็ทักออกมาว่า
“ถ้ายังไม่หายบอกเจ็กนะ (ใช้คำแทนตัวจีนมากอ่ะเจ็ก รู้ได้ไงอั๊วเป็นอาหมวย หน้าอั๊วออกจะซัวเถาอินเตอร์ -_-“) มีตัวนึงแนะนำให้ลอง” “เฮี้ยง เส่า เหย่า” คือชื่อเจ้ายาตัวที่ว่านั้น (หรืออีกชื่อคือ ยาหัวใจทอง)
แล้วอาเจ็กญาติห่างๆเมื่อครั้นบรรพบุรุษอยู่เจนเดียวกันที่ซัวเถาก็หยิบยาที่มีน้ำสีอำพัน (ไม่ใช่เหล้า!!) อยู่ข้างในมาโชว์ให้ดู
“ดีเหรอเจ็ก??”
“ดีมั่กๆฮ่ะ เนี่ย คนที่แล้วมาเหมาไปทีละ 10 ขวด เจ็กรับรองเลย ทาแล้วแป๊บเดียวหาย ดีกว่าอันที่ลื้อจะซื้อเยอะ”
“งั้นเปลี่ยนเลยฮ่ะเจ็ก” ใจง่ายพอที่จะ Request ให้เจ็กเปลี่ยนสินค้าให้ทันที เหยื่อการตลาดแบบ Word of mouth ชัดๆดิฉันเนี่ย
ครั้นจ่ายเงินเพิ่มไปอีกนิดหน่อยแล้วก็พร้อมกลับด้วยความสบายใจ เมื่อถึงเขตปลอดมนุษย์ ดิฉันก็ทดลองชะโลมเลยทันที ไม่เยอะหรอกค่ะ อีกนิดเดียวก็อาบแล้วอ่ะ
ความรู้สึกเมื่อได้สัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์ เอากลิ่นก่อนแล้วกัน มันคือกลิ่นพวกสมุนไพรซ่าๆเย็นๆ ที่ไม่ฉุนเหมือนน้ำหอม ซีซีละ 5 บาท แต่โล่งจมูกยันโพรงหูชั้นใน ในส่วนของผลการใช้งานนั้น เมื่อแรกชะโลมจะมีลักษณะคล้ายๆน้ำมากกว่าน้ำมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วดีมาก เสียแต่แค่ว่าระวังอย่าให้หก สีของมันอาจเปรอะชุดที่สวมอยู่ได้ (ยังไม่ได้ทดลองว่าซักออกมั้ย ใครลองแล้วมาบอกทีจิ แฮ่..) หลังจากซึมเข้าสู่ผิวและโดยไม่ได้นวดเพิ่มแต่อย่างใดนั้น ประมาณ 1 นาทีให้หลังบริเวณที่ทาจะรู้สึกเย็นซ่าเหมือนทาปริกลี่ฮีท แล้วถ้าเราไม่สนใจจับจ้องการทำงานของมัน เมื่อหันมาสังเกตอีกที เราจะรู้สึกได้ในทันทีว่า อาการปวดเมื่อก่อนหน้าจะทานั้น ดูบรรเทาและราวกับจะปลาศนาการไปแล้วด้วยซ้ำ กล่าวโดยสรุปคือ เป็นยาวดบรรเทาที่ดีที่สุดที่เคยใช้มาในตลาด
แต่ต่อให้ยาที่ว่าจะเลิศเลอละเมอค่าปานใด ที่สุดแล้ว การทรงไว้ซึ่งสมดุลย์ในการรักษาและป้องกันการเป็นซ้ำนั้น ดูจะเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งกว่าโอสถทิพย์ขนานใดๆ จำไว้ว่า การหักโหมมากไปอาจนำมาซึ่งโบนัสหลายๆเดือน แต่การทำซ้ำไปเรื่อยๆโดยไม่พยายามจะระวัง ป้องกัน และบรรเทา อาจนำมาซึ่งโบนัสระยะยาวแบบได้หยุดอยู่บ้านจนเปรมเพราะไม่สามารถลุกมาทำงานได้ ถึงตอนนั้นคุณก็จะตระหนักว่า คุณค่าเราก็แค่ “พนักงานบริษัท” ไม่ใช่กระทั่งผู้ถือหุ้น… ความพอดีจึงจำเป็นเหนือสิ่งอื่นใด…
แด่ความเจ็บปวดของตัวเอง…
หมายเหตุ: ใครอยากรู้ว่าซื้อที่ไหน ทิ้งข้อความถามไว้ได้นะคะ เข้าใจว่าอาจจะหาซื้อยากหน่อย เพราะเพิ่งเคยเจอที่ร้านอาเจ็กร่วมเจนกับอากงดิฉันเป็นที่แรกนี่แหละ
…อยากทราบชื่อยาและร้านที่หาซื้อได้จังเลยค่ะ
รบกวนด้วยนะคะ ฟังสรรพคุณแล้วอยากได้จริงๆ
จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ยินดีค่ะ ร้านที่ขายต้องขออภัยจริงๆค่ะ เฮี้ยงจำชื่อร้านไม่ได้ แต่ขอให้ตั้งต้นจากหน้า รร. ดุสิตธานีตรงถนนสีลมนะคะ สมมติหันหลังให้ รร. ดุสิตธานี ประตูฝั่งถนนสีลม ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินไปประมาณ 70 เมตรค่ะ ร้านยาร้านแรกที่เจอนับจากเดินมาจากประตูดุสิตธานีนั่นเลยค่ะ หาง่ายมากจริงๆ ถ้าหาไม่เจอบอกนะคะ เดี๋ยวลองดูว่าจะมีวิธีช่วยๆกันได้ยังไงบ้าง 🙂